ผู้ใช้กว่า 75% กังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่ผิดพลาดจาก AI
การสำรวจของ Forbes Advisor แสดงให้เห็นว่า 76% ของผู้ใช้กังวลกับข้อมูลที่ผิดจากเครื่องมือ AI เช่น Google Bard, ChatGPT และ Bing Chat เเละ 50% ของผู้ตอบแบบสำรวจเชื่อว่าพวกเขาสามารถบอกความแตกต่างระหว่างเนื้อหาที่เขียนโดยมนุษย์และแชทบอทได้ ดังนั้นเมื่อการผสานรวม AI เริ่มแพร่หลายมากขึ้นในธุรกิจต่างๆ การทำความเข้าใจความรู้สึกของผู้ใช้น่าจะมีประโยชน์ในการตัดสินใจของบริษัทต่างๆ เกี่ยวกับ AI ในอีกหลายปีข้างหน้า
ประเด็นที่สำคัญ
- จากรายงานพบว่ามากกว่า 40% ต้องการใช้ AI เพื่อช่วยตอบกลับข้อความ
- จากรายงานพบว่ามากกว่า 40% จะใช้ AI เพื่อรับคำแนะนำทางการเงิน
- ผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังคงไว้วางใจธุรกิจที่ใช้ AI
กว่า 75% กังวลเกี่ยวกับ AI จะทำให้ตกงาน
การสำรวจของเราชี้ให้เห็นถึงความกังวลในกลุ่มผู้ใช้เรื่องผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก AI ต่อการจ้างงาน ผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 77%) กังวลว่า AI จะทำให้ตกงานภายใน 12 เดือนข้างหน้า 40% ระบุว่ามีความกังวลมาก ในขณะที่ 33% ค่อนข้างกังวล 13% ไม่มีความกังวลหรือไม่กังวลใดๆ และอีก 10% มีทั้งความกังวลเเละไม่กังวล
ผลลัพธ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า เมื่อ AI ผสานรวมเข้ากับอุตสาหกรรมต่างๆ มากขึ้น ความกังวลเรื่องการเลิกจ้างงานจึงกลายเป็นประเด็นที่สำคัญ จากผลสำรวจของเราพบว่า กลยุทธ์ต่างๆ เช่น โปรแกรมการเพิ่มทักษะ การสนับสนุนการเปลี่ยนงาน และการศึกษาเพิ่มเติม อาจมีบทบาทในการจัดการกับข้อกังวลเหล่านี้ และช่วยให้พนักงานปรับตัวเข้ากับการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปได้
มากกว่า 65% จะใช้ ChatGPT แทนเครื่องมือค้นหา
การสำรวจของเราเผยให้เห็นถึงแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของผู้ใช้งาน AI เช่น ChatGPT เพื่อค้นหาข้อมูลหรือคำตอบ 67% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าพวกเขาน่าจะใช้ ChatGPT หรือเครื่องมือที่คล้ายกันแทนเครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิม เช่น Google โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 37% รายงานว่ามีแนวโน้มสูง และ 30% มีแนวโน้มค่อนข้างมากที่จะเปลี่ยน ในขณะเดียวกัน 15% ไม่มีทั้งเเนวโน้มที่จะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน และอีก 18% มีเเนวโน้มค่อนข้างน้อยหรือไม่น่าเป็นไปได้มากที่จะใช้ AI เเทนเครื่องมือค้นหา
เทรนด์นี้เน้นให้เห็นถึงศักยภาพของ AI ในการปฏิวัติวิธีที่ผู้คนค้นหาและปฎิสัมพันธ์กับข้อมูลออนไลน์ นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่าธุรกิจอาจต้องการพิจารณาลงทุนกับการใช้งานที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่เข้ากับเเต่ละบุคคลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธียอดนิยมที่คนวางแผนจะใช้ AI
แบบสำรวจของเรานำเสนอภาพรวมว่าคนวางแผนที่จะรวม AI เข้ากับกิจกรรมประจำวันของพวกเขาอย่างไร ผลลัพธ์เผยให้เห็นว่าผู้คนสนใจที่จะใช้ AI เพื่อช่วยงานต่างๆ เช่น การตอบกลับข้อความหรืออีเมลจากเพื่อนและเพื่อนร่วมงาน (45%) หาคำตอบสำหรับคำถามทางการเงิน (43%) และวางแผนการเดินทาง (38%) เเละ AI ก็ถูกมองว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเขียนอีเมล (31%) เตรียมพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งาน (30%) สร้างโพสต์บนโซเชียลมีเดีย (25%) และสรุปข้อมูลที่ซับซ้อนหรือมีจำนวนมาก (19%)
ในขณะที่ 6% ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะใช้ AI ได้อย่างไร แต่ 11% ระบุว่าพวกเขาไม่ต้องการใช้ AI ด้วยเหตุผลใดก็ตาม
การค้นพบเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการใช้งาน AI ที่หลากหลายและความสามารถในการสร้างความแตกต่างเชิงบวกในหลายๆ ด้านของชีวิตเรา เมื่อ AI พัฒนาขึ้น เราก็พร้อมที่จะเห็นวิธีใหม่ๆ ในการจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อน รวมถึงวิธีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเรา
ผู้ใช้งานส่วนใหญ่กังวลเกี่ยวกับธุรกิจที่ใช้ AI
จากผลการสำรวจเผยให้เห็นว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่แสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้ AI ในธุรกิจต่างๆ ตัวอย่างเช่น 41% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีความกังวลอย่างมาก และ 29% ค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่สร้างโดย AI หรือในกรณีของการรีวิวสินค้ามีถึง 29% ที่กังวลมาก และ 32% ค่อนข้างกังวล ในทำนองเดียวกันเกี่ยวกับการใช้แชทบอทในการตอบคำถาม มีจำนวน 27% ที่กังวลมาก และ 31% ค่อนข้างกังวล หรือในการสมัครงานก็มีถึง 29% ที่กังวลมาก และ 30% ค่อนข้างกังวล
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้ AI สำหรับการแนะนำเพลง ภาพยนตร์ และรายการทีวี โดย 26% และ 27% กังวลมากตามลำดับ หรือการโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลก็ทำให้เกิดความกังวลเช่นกัน โดย 35% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีความกังวลมาก
การค้นพบนี้ชี้ว่าผู้ใช้งานมีความระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้ AI ที่เพิ่มขึ้นในด้านต่างๆ ของธุรกิจ เเละชี้ให้เห็นถึงความต้องการของผู้ใช้งานสำหรับแนวทางปฏิบัติด้าน AI ที่โปร่งใสและมีจริยธรรมเพื่อส่งเสริมความไว้วางใจระหว่างธุรกิจและลูกค้าของพวกเขา
กว่า 60% ยังคงไว้วางใจธุรกิจที่ใช้ AI
แม้ว่าความกังวลเกี่ยวกับการใช้งาน AI จะยังคงมีอยู่ แต่ผู้ใช้จำนวนมาก (65%) ยังคงไว้วางใจธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยี AI ข้อมูลการสำรวจของเราเปิดเผยว่า 33% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีแนวโน้มที่จะไว้วางใจธุรกิจที่ใช้ AI ในขณะที่ 32% มีแนวโน้มค่อนข้างมาก ที่น่าสนใจคือ ผู้เข้าร่วม 21% ยังคงเป็นกลางในประเด็นนี้ เเละเป็นที่น่าสังเกตว่า 7% ของผู้ตอบแบบสอบถามค่อนข้างจะไม่ไว้วางใจ และอีก 7% นั้นไม่น่าไว้วางใจในธุรกิจที่ใช้ AI แต่อย่างใด
กว่า 75% กังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่ผิดพลาดจาก AI
ข้อมูลที่ผิดพลาดยังเป็นข้อกังวลที่สำคัญสำหรับผู้ใช้งานเมื่อพูดถึงการนำ AI ไปใช้ในธุรกิจ จากรายงาน ผู้ตอบแบบสำรวจ 76% แสดงความกังวลเกี่ยวกับ AI ที่ทำให้เกิดข้อมูลที่ผิดพลาดบนเว็บไซต์ของธุรกิจ โดย 43% กังวลมาก และ 33% ค่อนข้างกังวล ในทางกลับกัน 14% ยังคงเป็นกลาง เเละมีเพียง 4% และ 5% เท่านั้นที่ไม่กังวลบ้างหรือไม่สนใจตามลำดับ
ข้อมูลเหล่านี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของธุรกิจที่มุ่งเน้นไปที่ความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของเนื้อหาที่สร้างโดย AI โดยต้องแสดงการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบและนำเสนอข้อมูลที่เชื่อถือได้ ดังนั้นธุรกิจจะต้องสร้างและรักษาความไว้วางใจของผู้ใช้งานในยุคของ AI ให้ได้
ผู้ใช้งานเชื่อว่า AI สามารถพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าได้
แบบสำรวจของเรายังสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้ว่า AI สามารถพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ได้อย่างไร ผู้ตอบแบบสอบถาม 54% เชื่อว่า AI สามารถพัฒนาเนื้อหาที่มีจำนวนมาก เช่น เนื้อหาเว็บไซต์ 53% มองถึงการส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที รวมถึงแชทบอท ในขณะที่ 46% คิดว่าเป็นข้อความตัวอักษรและ 48% คิดว่าอีเมลจะได้รับประโยชน์จากการผสานรวม AI
นอกจากนี้ 39% ของผู้บริโภครู้สึกว่า AI สามารถปรับปรุงการโทร และ 40% มองเห็นศักยภาพในการโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล บริการส่วนบุคคล เช่น คำแนะนำผลิตภัณฑ์ ได้รับการระบุโดย 37% ของผู้ตอบแบบสอบถามว่าเป็นพื้นที่ที่ AI สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้ อย่างไรก็ตาม 5% ไม่แน่ใจเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และ 8% ไม่คิดว่า AI จะสามารถปรับปรุงอะไรในเรื่องนี้ได้
การค้นพบนี้บ่งชี้ว่าผู้ใช้จำนวนมากตระหนักถึงศักยภาพของ AI ในการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในแง่มุมต่างๆ ทำให้ธุรกิจมีโอกาสใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เพื่อตอบสนองและเกินความคาดหวังของลูกค้า
ประเภทของข้อมูลที่ผู้คนยอมรับสำหรับธุรกิจที่ใช้ AI
ผลการสำรวจของเรายังสำรวจประเภทข้อมูลที่ผู้ใช้งานยอมรับกับธุรกิจที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ 55% พอใจกับ AI ที่วิเคราะห์การมีส่วนร่วมเเละการใช้งานของโซเชียลมีเดีย อีก 48% เห็นชอบให้ AI วิเคราะห์การซื้อและการกระทำก่อนหน้าของพวกเขา ตลอดจนพฤติกรรมการขับขี่และสถานที่ที่พวกเขาขับรถไป
ในด้านอื่นๆ ที่ผู้ใช้งานยอมรับการวิเคราะห์ของ AI มากกว่า ได้แก่ ภาพยนตร์และรายการทีวีที่พวกเขาดู (45%) เพลงที่พวกเขาฟัง (41%) อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสำรวจรู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่ AI จะวิเคราะห์ข้อความ (33%) และการสนทนาทางโทรศัพท์ (21%) ในขณะที่ 5% ของผู้เข้าร่วมไม่แน่ใจเกี่ยวกับจุดยืนของตน เเละ 3% ไม่เห็นด้วยกับ AI ในสถานการณ์ใดๆ ที่กล่าวมา และ 9% ไม่เห็นด้วยกับธุรกิจที่ใช้ AI เลย
ข้อมูลเหล่านี้เผยให้เห็นว่าผู้ใช้งานมีระดับความสบายใจที่แตกต่างกันเมื่อ AI วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่างๆ เพราะฉะนั้นธุรกิจต่างๆ ควรคำนึงถึงสิ่งนี้เมื่อใช้ AI เพื่อรักษาความไว้วางใจของผู้บริโภคและรับประกันความเป็นส่วนตัว
ข้อสรุป
การสำรวจของ Forbes Advisor เผยให้เห็นภาพรวมที่หลากหลายของความคิดเห็นและความกังวลของผู้ใช้งาน AI ในขณะที่หลายคนรับทราบถึงประโยชน์ที่เป็นไปได้ของ AI ในการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและเห็นถึงประโยชน์ในการใช้เครื่องมือ AI เช่น ChatGPT แต่ความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียงาน ข้อมูลที่ผิด และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลยังคงมีอยู่ ดังนั้นผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังคงเต็มใจที่จะไว้วางใจธุรกิจที่ใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบและมีจริยธรรม
เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลง ธุรกิจต่างๆ อาจต้องสร้างสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์จาก AI เเละการจัดการข้อกังวลของผู้บริโภค ซึ่งจำเป็นต้องให้ความสนใจต่อความถูกต้อง ความโปร่งใส และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างมีจริยธรรม และแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการใช้งานที่ขับเคลื่อนด้วย AI เเละธุรกิจจะสามารถสร้างความไว้วางใจและใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของมันได้ ปรึกษาการใช้ AI สำหรับองค์กร หรือต้องการเชื่อมต่อ Generative AI ในองค์กร ติดต่อ sales@datawow.io หรือโทร 02-024-5560